จำเป็นแค่ไหนที่ต้องใช้ตู้RACK
“วางๆไปเหอะซื้อทำไมไม่เห็นจะช่วยอะไรเลย”
ตู้Rackเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ไอทีที่หลายๆคนมักมองข้ามเพียงเพราะคิดว่าแค่ระบบเครือข่ายใช้งานได้ดีแค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วแต่เอาเข้าจริงตู้Rack ถือเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นมากทั้งเรื่องของความสะดวกในการจัดการ-จัดเก็บอุปกรณ์เรื่องความปลอดภัยและที่สำคัญอุปกรณ์Network, Server รวมๆกันทุกตัวไม่ใช่ราคาถูกๆลงทุนสักหน่อยซื้อตู้Rack มาวางให้เรียบร้อยเราคิดว่าคุ้มกว่าเยอะ
ประเภทของตู้RACK
-Close Rack แบบตั้งพื้น
ตู้Rack แบบตั้งพื้นมักมีขนาดตั้งแต่15U-45U (U ย่อมาจากคำว่าUnit Rack) สามารถจัดเก็บอุปกรณ์ได้หลากหลายและรองรับน้ำหนักได้มากกว่าตู้ประเภทอื่นๆสามารถเปิด-ปิดตู้ได้ทั้ง4 ด้านพร้อมขาตั้งและชุดล้อเลื่อนแบบ360 องศาเพื่อการเคลื่อนย้ายได้สะดวกแถมยังสามารถติดตั้งพัดลมระบายอากาศเพิ่มเติมได้ค่อนข้างเยอะ
- Open Rack แบบเปิด
หรือเรียกอีกอย่างว่าNetwork Rack เป็นตู้แบบเปิดโล่งระบายอากาศได้ดีจุดเด่นที่สำคัญคือน้ำหนักเบาและราคาถูกแต่รับน้ำหนักได้ค่อนข้างจำกัด
- Wall Rack แบบติดผนัง
เหมาะสำหรับการติดตั้งบนผนังวางแขวนหรือว่าวางบนชั้นใส่อุปกรณ์จำนวนไม่มากนักโดยมีให้เลือกตั้งแต่6U-12U และสามารถติดตั้งพัดลมระบายอากาศเพิ่มได้
* นอกเหนือจากตู้Rack ประเภทต่างๆที่กล่าวมาข้างต้นเรายังสามารถแบ่งย่อยเป็นประเภทต่างๆได้ลงไปอีกเช่นแบ่งตามวัสดุการผลิต, ตามลักษณะการระบายอากาศหรือแบ่งตามลักษณะการดีไซน์เป็นต้น(ประตูหน้ากระจกนิรภัย, ประตูหลังเจาะช่องระบายอากาศรูปรังผึ้ง)
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ข้อดีของตู้Rack
1. ประหยัดพื้นที่ติดตั้ง
ลองนึกภาพอุปกรณ์วางกระจัดกระจายกับสายสัญญาณม้วนพันกันไปมาคงเป็นภาพที่ไม่น่ามองแน่ๆซึ่งการติดตั้งอุปกรณ์และเซิร์ฟเวอร์ในตู้Rack (แบบวางซ้อนๆกัน) นั้นช่วยให้ประหยัดพื้นที่ไปได้เยอะ
2. ประหยัดเวลาในการจัดการ, แก้ไข
หากระบบล่มการติดตั้งเซิร์ฟเวอร์หรืออุปกรณ์เครือข่ายในตู้Rack จะช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถตรวจสอบระบุปัญหาและเข้าแก้ไขได้รวดเร็วมีประสิทธิภาพ
3. เดินสายได้สวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย
ข้อนี้สำคัญมากโดยเฉพาะในองค์กรใหญ่ๆที่มีเครื่องเซิร์ฟเวอร์และการเชื่อมต่อเป็นจำนวนมากการจัดการสายสัญญาณและสายไฟต่างๆให้เรียบร้อยสวยงามถือเป็นสิ่งจำเป็น
4. ส่งต่อ, มอบหมายงานได้ง่ายรวดเร็ว
แน่นอนว่าหากทุกอย่างเป็นระบบระเบียบเรียบร้อยการส่งต่อมอบหมายหรือสอนงานก็จะเป็นเรื่องง่ายทันที
5. ลดปัญหาเรื่องฝุ่นละออง, ความชื้น
ข้อนี้ชัดเจนอยู่แล้วว่าการติดตั้งในตู้Rack สามารถช่วยป้องกันทั้งเรื่องฝุ่นและเรื่องน้ำ
6. ป้องกันสัตว์กัดแทะ
หนูกับสายไฟดูเหมือนจะเป็นของคู่กันบางทีอาจจะมีพรรคพวกมาเพิ่มทั้งแมลงสาบหรือมดการติดตั้งตู้Rack ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้แน่นอน
7. ป้องกันอุบัติเหตุ
เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอแม้กระทั่งการเดินสะดุดสายไฟ
8. ระบายความร้อน
ข้อสุดท้ายสำคัญมากเพราะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อนยิ่งหากติดตั้งพัดลมระบายอากาศเพิ่มด้วยแล้วยิ่งดีเข้าไปใหญ่
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
หลักการจัดวางอุปกรณ์ในตู้Rack
- ขนาดเหมาะสมกับอุปกรณ์(กว้างยาวลึก)
- อุปกรณ์ที่ต้องมอนิเตอร์ควรวางในระดับสายตา
- สายสื่อสารควรจัดวางไว้ด้านบนตามมาตรฐานIDC
- สายไฟควรจัดวางไว้ด้านล่างหรือแยกออกจากกันเพื่อป้องกันสัญญาณรบกวนสายสื่อสาร
- อุปกรณ์ที่มีน้ำหนักมากและมีขนาดยาวควรวางไว้ด้านล่าง
*ตรวจสอบให้เรียบร้อยว่าอุปกรณ์ทั้งหมดของเรานั้นใช้พื้นที่กี่U (1U=1.75 นิ้วหรือ4.445 เซนติเมตร) อย่าลืมเผื่อความสูงของตู้(จำนวนU) ไว้บ้างเพราะคุณอาจจะต้องติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มในอนาคต
* ควรติดตั้งอุปกรณ์ที่ต้องมอนิเตอร์ไว้ในระดับสายตาเพื่อสะดวกแก่การแก้ไขตรวจสอบ
* ขนาดความลึกของตู้Rack ควรเผื่อไว้ประมาณ15-20 เซนติเมตรสำหรับการโค้งงอของสายสัญญาณโดยวัดจากอุปกรณ์ที่มีขนาดลึกที่สุด
* อุปกรณ์ที่ค่อนข้างหนักและมีขนาดยาวควรวางไว้ด้านล่างเช่นUPS เนื่องจากตู้Rack ส่วนใหญ่มีพัดลมระบายอากาศอยู่ด้านบนบริเวณหลังคาจึงไม่ควรวางไว้สูงๆเพราะจะบังพัดลมระบายอากาศ
* เพื่อป้องกันการเกิดสัญญาณรบกวนสายสัญญาณและสายไฟจึงไม่ควรมัดรวมกัน
หน้าที่เข้าชม | 372,171 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 160,489 ครั้ง |
เปิดร้าน | 24 เม.ย. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 1 ก.ย. 2568 |